วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2562

บันทึกอนุทินครั่งที่ 15👩🏼‍🏫

บันทึกอนุทินครั่งที่ 15


วันศุกร์ ที่     26     เมษายน   2562   
เวลาเรียน    08:30-11:30 น

เวลาเลิกเรียน 11:30 น  อ.  กฤตธ์ตฤณน์  ตุ๊หมาด 




ซึ่งในสัปดาห์นี้เรียนเกี่ยวกับอาหารเเละโภชนาการสำหรับเด็กเนื่องจากเรียนต่อในสัปดาห์ที่เเล้ว



   อาหารและโภชนาการสำหรับเด็ก



 อาหารสำหรับเด็กอายุ 3-5 ปี
                           เด็กในวัยนี้จะมีระยะการเจริญเติบโตที่ช้ามากกว่าใน 2 ระยะแรก ดังนั้นจึงไม่ต้องการอาหารในการพัฒนาการมากนักจะให้ความสนใจอาหารน้อยลงแต่มีความสนใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทำให้ความอยากอาหารน้อยลง จะมีความต้องการอาหารแตกต่างกันในแต่ละมื้อ เริ่มกำหนดความชอบอาหารของ ตัวเอง หากพ่อแม่ผู้เลี้ยงดูเด็กไม่เข้าใจ จะทำให้เกิดปัญหาการกินอาหารของเด็กวัยนี้ได้ อาหารสำหรับเด็กวัยนี้ต้องมีความหลากหลาย โดยผู้เลี้ยงดูเด็กต้องรู้จักวิธีส่งเสริม ป้องกัน และแก้ไขปัญหาความต้องการอาหารของเด็ก เพื่อปลูกฝังนิสัยการกินอาหารทีดีให้แก่เด็ก รวมทั้งต้องจัดอาหารให้เหมาะกับพัฒนาการตามวัยและความต้องการทางร่างกายของเด็ก ชีวิตช่วงนี้ของเด็กจะอยู่กับผู้เลี้ยงดูเด็ก ซึ่งจะดูแลอาหารหลัก อาหารกลางวัน 1 มื้อ อาหารเสริมหรือ อาหารว่าง 2 มื้อ สิ่งที่จะต้องคำนึงถึง คือ รสชาติต้องอร่อยถูกปากเด็ก ทั้งต้องมีความหลากหลายและเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย

    อาหารที่มีประโยชน์จะต้องมีลักษณะ ดังนี้
             เป็นอาหารใหม่และสด อาหารที่มีความใหม่และสดทั้งเนื้อสัตว์และผักผลไม้จะให้ คุณค่าทางอาหารสูงกว่าอาหารที่เก็บไว้นาน อาทิเช่น อาหาร ประเภทเนื้อสัตว์หากเก็บไว้นานจะมีการเสื่อมสภาพของเนื้อ สัตว์ นอกจากมีกลิ่นแล้วยังด้อยคุณค่าลงยิ่งมีการปรุงโดยการ ต้มเคี่ยวนานคุณค่าก็จะลดด้อยลง หากเป็นอาหารประเภทผัก ผลไม้ถ้าเก็บไว้นาน วิตามินและแร่ธาตุจะสูญสลายไป เมื่อนำ มาผ่านกระบวนการปรุงแล้ว คุณค่าก็จะสูญสลายไปอีกบาง อย่าง แต่อย่างไรก็ตามการทำให้อาหารสุกก็ยังมีความจำเป็น เนื่องจากเป็นความปลอดภัยของเด็ก 





ก่อนที่จะออกมานำเสนอเกี่ยวกับแผ่นพับคาวมรู้นั้นได้เเบ่งกลุ่มที่จะทำอาหารสำหรับเด็กปฐมวัยค่ะ ซึ่งเเบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม เเละเลือกอาหาร 3 เมนู ซึ่งของหวาน จะมี ทับทิมกรอบเเละบัวลอยอาจจารย์เป็นคนทำให้ค่ะอีกอย่างเป็นอาหารคาวซึ่งการทำอาหารสำหรับเด็กนั้นจะต้องไม่ปรุงรสด้วยผงปรุงรสที่สำเร็จรูป
สมาชิกในกลุ่มมีดั้งนี้
1.  นางสาว กัญยารัตน์  เเนววัน                                     6. นางสาวเวียรยา ศรีทรง
2.  นางสาว อริศา         ซอมเเก้ว                                    7.นางสาวประภาพรรณ ศรีนาค
3.  นางสาวพนิตรา       เเรงโสม                                     8.นางสาวศศิภา เทพันดุง
4.  นางสาวตินิตย์        ลัยวงษ์                                        9.นางสาวพัชริดา                โป๊ะปะนม
5.  นางสาวชลลิดา       บุญจรัญ                                    10.นางสาววรรณการณ์        บุญเหมาะ


เเละในวันนี้ให้นำเสนอเกี่ยวกับแผ่นพับของตัวเอง เรื่องโภชนาการเเละโรคเกี่ยวกับเด็กปฐมวัย ซึ่งดิฉันได้เลือกเรื่อง โรคอุจจาระร่วงสำหรับเด็กปฐมวัย










วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2562

บันทึกอนุทินครั่งที่ 14 👩🏼‍🏫

บันทึกอนุทินครั่งที่ 14 


วันศุกร์ ที่     19     เมษายน   2562   
เวลาเรียน    08:30-11:30 น

เวลาเลิกเรียน 11:30 น  อ.  กฤตธ์ตฤณน์  ตุ๊หมาด 




               ในสัปดาห์กลุ่มดิฉันได้นำเสนอเกี่ยวครูในดวงใจ เนื่องจากล่าช้าเพราะว่าทางโรงเรียนไม่ติดต่อมาจนทำให้อาจารย์ได้ติดต่อกับครูยูบี ซึ่งสอนที่โรงเรียนอนุบาลสามภาษาบ้านต้นไม้ จนได้สัมภาษณ์ค่ะ 




เเละในสัปดาห์นี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อาจารย์ให้เเบ่งกลุ่มเพื่อโตวาทีในห้องซึ่งการเลือกกลุ่ม เเบ่งตามเลขที่คือ เลขคี่  เเละเลขคู่ได้ฝั่งทาง โฮมสคูล ซึ่งดิฉันได้ฝั่งโฮมสคูล  ซึงข้อดีของการเรียนโฮมสคูลจะเป็นยังไงตามไปดูรูปกันเลย


                             


ข้อดีของเรียนแบบโฮมสคูล


1.พ่อแม่ผู้ปกครองมีเวลาอยู่กับลูกเต็มที่ ความผูกพันอบอุ่นระหว่างพ่อแม่ลูกย่อมแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
2.พ่อแม่ผู้ปกครองมีโอกาสเลือกและปรับแนวทางการจัดหลักสูตร และการสอนให้เหมาะกับแบบแผนชีวิต ความเชื่อตลอดจนความต้องการ และความพร้อมของลูกได้อย่างยืดหยุ่นแทนการส่งลูกไปรับการศึกษาที่บังคับให้ลูกต้องเรียนทุกอย่างเหมือนๆ และพร้อมๆ กับเด็กอื่นๆ ในขณะที่ลูกยังอาจไม่สนใจหรือไม่พร้อมที่จะเรียนเรื่องนั้นๆ
3.เด็กได้รับการปฏิบัติในฐานะเพื่อนมนุษย์ที่มีชีวิตจิตใจและสิทธิเสรีภาพของตนเอง ไม่มีพ่อแม่คนใดว่าลูกว่าเป็นเด็กเรียนช้าหรือเด็กมีปัญหาเหมือนในโรงเรียน
4.การเรียนรู้สามารถเกิดขึ้นได้ต่อเนื่องตลอดเวลาโดยไม่มีเปิดเทอมหรือปิดเทอมที่ชัดเจน การเรียนรู้อย่างสนุกสนานต่อเนื่องจะค่อยๆ ปลูกฝังจิตวิญญาณ แห่งการเรียนรู้อยู่เสมอเช่นกัน
5.และในชีวิตจริงการเรียนรู้และพัฒนาตนเองก็ไม่มีเปิดเทอมหรือปิดเทอมเช่นกัน การเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ลงมือปฏิบัติจริงเป็นได้ง่ายขึ้นในบรรยากาศของครอบครัว ที่สามารถจัดกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ทั้งในบ้านนอกบ้านได้มากมาย แทนที่จะให้เด็กเรียนแต่จากหนังสือและคำบรรยาย






บันทึกอนุทินครั่งที่ 13 👩🏼‍🏫

บันทึกอนุทินครั่งที่ 13


วันศุกร์ ที่     12     เมษายน   2562   
เวลาเรียน    08:30-11:30 น

เวลาเลิกเรียน 11:30 น  อ.  กฤตธ์ตฤณน์  ตุ๊หมาด 





เนื่องจากจะเป็นวันช่วงหยุดสงการนต์   อาจารย์เลยงดการเรียนการสอนในสัปดาห์นี้ค่ะ






วันพุธที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2562

บันทึกอนุทินครั่งที่ 12 🤱🏻

บันทึกอนุทินครั่งที่ 12


วันศุกร์ ที่     5     เมษายน   2562   
เวลาเรียน    08:30-11:30 น

เวลาเลิกเรียน 11:30 น  อ.  กฤตธ์ตฤณน์  ตุ๊หมาด   




                    ในสัปดาห์นี้เพื่อนๆเริ่มนำเสนอจากที่ไปสัมภาษณ์โรงเรียนต่างๆเเต่ล่ะกลุ่มก็จะมีความเเตกต่างกัน เเต่กลุ่มมีความเเตกต่างในคำถาม      


  

                           


และในสัปดาห์ที่ผ่านๆมาคือดิฉันยังไม่ได้รายงานเกี่ยวกับการอบรบเลี้ยงดูสำหรับเด็กปฐมวัยอาจารยืเลยให้รายงานในสัปดาห์นี้เเทนซึงของดิฉันมีเนื้อหาดังนี้




ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการประกอบอาหาร

ในการจัดกิจกรรมการประกอบอาหารสำหรับเด็กปฐมวัยนั้น คุณครูและผู้ปกครองสามารถกำหนดเป็นขั้นตอนอย่างง่าย ดังตัวอย่างที่ผู้เขียนกำหนดเป็น 3 ขั้นตอนดังนี้
1. ขั้นนำ
เด็กช่วยคิดหาเมนูอาหารที่สนใจร่วมกับคุณครูหรือผู้ปกครอง และสนทนาเกี่ยวกับวัตถุดิบ ส่วนผสม และอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบอาหาร ว่ามีอะไรบ้าง
2. ขั้นปฏิบัติ
เมื่อเด็กได้จัดเตรียมวัตถุดิบและส่วนผสมที่จะนำมาปรุงอาหารในเมนูที่คิดแล้ว ให้ช่วยกันล้าง หั่น และปรุงสุก ทั้งนี้ ก่อนการประกอบอาหาร ให้คุณครูและผู้ปกครองแนะนำขั้นตอนในการทำอาหาร พร้อมทั้งแนะนำวิธีการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ให้กับเด็ก เพื่อความปลอดภัยทุกครั้งที่ทำกิจกรรมด้วยค่ะ
3. ขั้นสรุป
เมื่อเด็กทำการประกอบอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เด็กเล่าประสบการณ์การทำงานและขั้นตอนการทำงานว่าทำอย่างไร แล้วช่วยกันสรุปว่าเมนูที่ทำนั้นมีสีสัน กลิ่น รสชาติ เป็นอย่างไร ส่วนผสมและเครื่องปรุงใส่อะไรไปเท่าไหร่ รวมทั้งเครื่องปรุงแต่ละชนิดมีรสชาติเป็นอย่างไร เป็นต้น

ประโยชน์ของการจัดกิจกรรมการประกอบอาหาร

กิจกรรมการประกอบอาหาร หรือกิจกรรม Cooking เป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน สร้างความตื่นเต้นและเป็นสิ่งเร้าในการจัดการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยเป็นอย่างมาก การจัดกิจกรรมนี้ จะไม่เน้นในผลงานของอาหารที่ทำสำเร็จ แต่อยู่ที่กระบวนการและขั้นตอนในการทำกิจกรรมเป็นสำคัญ ซึ่งมีประโยชน์ต่อการพัฒนาเด็ก ดังนี้
1.ส่งเสริมทักษะด้านร่างกาย
การที่เด็กได้หั่นผัก หั่นผลไม้ ตักเกลือหรือน้ำตาลใส่ลงในหม้อ เทเครื่องปรุงและส่วนผสมลงไปในกระทะ การปั้นแป้งทำขนมหรือแม้กระทั้งการล้างผักหรือล้างอุปกรณ์ต่าง ๆ นั้น ล้วนเป็นกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมและพัฒนาการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กให้กับเด็ก นอกจากนี้ยังช่วยฝึกในเรื่องการประสานสัมพันธ์มือและตาของเด็กให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ
กิจกรรม Cooking ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมือ
การปั้นแป้งทำขนมต่าง ๆ จะช่วยส่งเสริมทักษะด้านร่างกายให้กับเด็ก
2.ส่งเสริมทักษะด้านอารมณ์
เด็กจะได้ฝึกการควบคุมอารมณ์และรอคอย เช่น เด็กบางคนใจร้อน อยากให้อาหารสุกเร็ว ๆ แต่ถ้าเอาอาหารออกจากเตาก่อนเวลา ก็จะได้กินอาหารที่ไม่สุก เป็นการให้เด็กได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงของตัวเอง ว่าทำไมต้องรอ ส่งผลให้เด็กมีพฤติกรรมการแสดงออกทางอารมณ์ที่ดีและอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
3.ส่งเสริมทักษะด้านสังคม
เด็กจะได้รับการพัฒนาทักษะทางสังคม ผ่านการทำงานร่วมกับผู้อื่นหรือการทำงานเป็นกลุ่ม ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ พัฒนาการสื่อสารระหว่างกัน เด็ก ๆ จะได้วางแผนและรู้จักการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ มีการแบ่งปัน มีน้ำใจ ช่วยเหลือและมีพฤติกรรมการเอื้อเฟื้อ มีความรับผิดชอบ รู้จักการปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่ม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ จะช่วยส่งเสริมให้เด็กมีความมั่นใจในตัวเองอีกด้วยค่ะ
4.ส่งเสริมทักษะด้านภาษา
เด็กจะได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ จากวัตถุดิบ อุปกรณ์ และส่วนผสมที่นำมาใช้ในการประกอบอาหาร เช่น ถ้วย ชาม กระทะ เตาอบ ผักกาด แครอท น้ำปลา น้ำตาล เป็นต้น นอกจากนี้เด็ก ๆ ยังได้พัฒนาทักษะการพูดและการฟัง ผ่านการพูดคุยสนทนาตอบโต้กับคุณครูหรือผู้ปกครอง และเพื่อน ๆ หรือการแสดงความคิดเห็นในระหว่างการทำกิจกรรม Cooking
5.ส่งเสริมทักษะด้านวิทยาศาสตร์
เด็กจะได้เรียนรู้และสังเกตดูการเปลี่ยนแปลงของวัตถุดิบ เมื่อนำมาปรุงจนสุกจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร การใส่เครื่องปรุงต่าง ๆ เช่น เกลือ น้ำตาล น้ำปลา ฯลฯ ถ้าใส่มากจะมีรสชาติอย่างไร ใส่น้อยจะมีรสชาติอย่างไร นอกจากนี้ ยังได้ฝึกฝนทักษะการเปรียนเทียบ การจำแนกประเภท การจัดกลุ่มของวัตถุดิบและส่วนผสมที่ใช้ในการประกอบอาหาร
กิจกรรมประกอบอาหาร ช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสเด็ก
เด็กสัมผัสและสังเกตการเปลี่ยนแปลงของแป้ง ก่อนและหลัง ใส่น้ำมัน
6.ส่งเสริมทักษะด้านคณิตศาสตร์
เด็กจะได้เรียนรู้ทักษะด้านคณิตศาสตร์ จากการชั่ง ตวง วัดเครื่องปรุง และส่วนผสมต่าง ๆ การเรียงลำดับ การนับจำนวน และการกะปริมาณ
7.ส่งเสริมจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
การให้เด็กมีส่วนร่วมในการจัดจานอาหาร เป็นการเปิดโอกาสให้เด็กใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางผัก การราดซอสและการจัดเรียงผลไม้ นอกจากนี้การให้เด็ก ๆ ได้มีส่วนร่วมในการเลือกเมนูอาหาร ก็ถือเป็นการกระตุ้นจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ให้กับเด็กอีกด้วยค่ะ
8.ช่วยกระตุ้นการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5
กิจกรรมการประกอบอาหาร จะช่วยกระตุ้นการใช้ประสาทสัมผัสของเด็กได้เป็นอย่างดี เช่น “ตา” มองเห็นวัตถุดิบและส่วนผสมต่าง ๆ “มือ” ได้สัมผัสผิวของวัตถุดิบ ผักและผลไม้ต่าง ๆ ว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร “หู” ฟังคำสั่งและคำแนะนำจากคุณครูหรือผู้ปกครอง ว่าขั้นตอนถัดไปคืออะไร ต้องทำอะไรต่อ เสียงสับหมู เสียงเครื่องครัวทำงาน “จมูก” ได้กลิ่นของอาหาร กลิ่นของเครื่องปรุงต่าง ๆ “ปาก” ชิมรสชาติของวัตถุดิบ เช่น เกลือมีรสเค็ม น้ำตาลมีรสหวาน หรือชิมเพื่อรู้ว่าอาหารที่ทำมีรสชาติอย่างไร ต้องเติมรสชาติไหนจึงจะได้รสอย่างที่ต้องการ
กระตุ้นกระบวนการเรียนรู้เด็กปฐมวัย ผ่านการจัดกิจกรรมการประกอบอาหาร
เด็กใช้มือสัมผัสแป้งหลังใส่น้ำมัน ว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร
9.ช่วยสร้างสุขนิสัย สุขอนามัย และโภชนาการ
เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับโภชนาการและอาหารหลัก 5 หมู่ เช่น การทำผัดผักรวม เด็กจะเรียนรู้ว่าผักมีประโยชน์ให้วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ เนื้อหมูให้สารอาหารประเภทโปรตีน และไขมัน เป็นต้น นอกจากนี้ยังช่วยสอนให้เด็กเลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ และช่วยปลูกฝังทัศนคติที่ดีต่อการรับประทานอาหารให้กับเด็ก
การจัดกิจกรรมการประกอบอาหารนอกจากจะช่วยส่งเสริมทักษะด้านต่าง ๆ ให้กับเด็กแล้ว ยังช่วยส่งเสริมให้เด็กมีความคิดรวบยอด ช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้จากรูปธรรม ส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีและเหมาะสมตามวัย
กิจกรรม Cooking พัฒนากล้ามเนื้อมือ
เด็กใช้แม่พิมพ์กดแป้ง เพื่อให้เกิดรูปตามจินตนาการ
การจัดกิจกรรมการประกอบอาหาร ส่งเสริมทักษะด้านอารมณ์เด็ก
เด็กสนุกกับกิจกรรมการประกอบอาหาร
กระบวนการเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัยนั้น เกิดได้จากสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ตัวของเด็กเป็นหลัก ดังนั้น การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด คือ การเรียนรู้โดยการให้เด็กลงมือปฏิบัติจริง (การเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง) ทั้งนี้ คุณครูหรือผู้ปกครองควรเป็นผู้จัดหากิจกรรมที่เหมาะสมให้กับเด็ก ด้วยการเปิดโอกาสให้เด็กได้ลงมือทำและรับประสบการณ์ที่หลากหลายด้วยตัวเด็กเอง จะช่วยพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพของเด็กให้มากขึ้น

รูปภาพบรรยากาศ





                        







วันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2562

บันทึกอนุทินครั่งที่11 🤱🏻

บันทึกอนุทินครั่งที่ 11


วันศุกร์ ที่      29     มีนาคม   2562  
เวลาเรียน   08:30-11:30 น



เวลาเลิกเรียน 11:30 น  อ.  กฤตธ์ตฤณน์  ตุ๊หมาด   






               ในสัปดาห์นี้อาจารย์มอบหมายงานให้ไปสัมถาษณ์อาจารย์ในโรงเรียน ซึ่งกลุ่มดิฉันได้โรงเรียน สันติสุขวิทยา เเต่เนื่องจากทางโรงเรียนไม่ได้ติดต่อกลับมาดิฉันเลยได้โทรสอบถามอาจารย์ทางโรงเรียนได้ตอบว่า ท่านผู้อำนวยการยังไม่ว่างเลยขอเลือนการสัมภาษณ์ไปก่อนค่ะ








บันทึกอนุทินครั่งที่ 10 🤱🏻

บันทึกอนุทินครั่งที่ 10


วันศุกร์ ที่      22    มีนาคม   2562  
เวลาเรียน   08:30-11:30 น



เวลาเลิกเรียน 11:30 น  อ.  กฤตธ์ตฤณน์  ตุ๊หมาด   






เนื่องจากในสัปดาห์นี้ดิฉันไม่ได้มาเรียนมีธุระด่วนที่ต้องไปทำเลยไม่สามารถมาเรียนในสัปดาห์นี้ได้เเต่ยังไงก็ตามเพื่อนก็ได้รายงานว่าวันนี้เรียนอะไรบ้างซึ้งในสัปดาห์ ซึ่งในสัปดาห์นี้อาจารย์ให้นำเสนอเกี่ยวกับบทความที่เราหามาค่ะ  ซึ้งบทความที่ฉันหามาก็เกี่ยวกับ การจัดกิจกรรมให้เด็กปฐมวัย ค่ะ ซึ้งอาจารย์ให้คนที่ไม่มาในสัปดาห์นำเสนอ ในสัปดาห์ต่อไปที่เรียนได้ค่ะ



บันทึกอนุทินครั่งที่ 9 🤱🏻

บันทึกอนุทินครั่งที่ 9


วันศุกร์ ที่      15      มีนาคม   2562  
เวลาเรียน   08:30-11:30 น

เวลาเลิกเรียน 11:30 น  อ.  กฤตธ์ตฤณน์  ตุ๊หมาด   





             เรียนคุณธรรมเจตคติสำหรับเด็กซึ่งอาจจะไม่เราใจเท่าไรเพราะรู้สึกง่วงอาจารย์ก็พยายามมีกิจกรรมมาให้ทำโดยให้เเสดงละครเกียวกับคุณธรรมจริยธรรมซึ่งดิฉันได้ด้านสุขภาพ กับสะอาด กลุ่มดิฉันเเสดงประมาณว่า ก่อนที่จะไปกินข้าวจะต้องมีการล้างมือเเละก่อนเข้านอนจะต้องแปรงฟันเเละล้างหน้าค่ะส่วนสุขภาพเเสดงเกี่ยวกับการมีคุณธรรมจริยธรรมเกี่ยวกับการมีมารยาทในห้องเรียนการรู้จักการรอการต่อเเถวอย่างเป็นระเบียบในการรับของจากผู้ใหญ่


                                             









                   (เนื้อหาการเรียนเกี่ยวกับคุณธรรมในวันนี้จากอาจารย์บางส่วนเพื่อทำความเข้าใจ)